เราอยู่ในยุคของ ‘shoppertainment’ มากจนเราไม่รู้สึกตัวกับการแสดงละครที่เป็นลูกเล่นที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การจับจ่ายซื้อสินค้าของเรา และสิ่งที่ทำให้ผู้ชมนั้นติดใจคือความเพลิดเพลินใจของนักช้อป อะไรคือ Shoppertainment? คำนี้อธิบายตัวเองได้ชัดเจน มันคือการให้ความบันเทิง (Entertainment) กับลูกค้า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ทั้งร้านค้าและลูกค้าต่างก็ถูกสถานการณ์ทางการ ร้านค้าทั้งหลายต่างก็ได้ค้นหาวิธีที่จะพลิกโฉมตัวเองบนหน้าจอของผู้บริโภคแทนที่จะเปิดหน้าร้านไว้เฉยๆ

ไลฟ์สตรีมมิ่งเพื่อขายสินค้า

แทนที่ร้านค้าจะรอให้มีลูกค้าเดินผ่านมาหน้าร้านของตัวเอง ผู้ขายได้เริ่มใช้เทคโนโลยีการถ่ายทอดสดหรือการใช้ระบบไลฟ์สตรีมมิ่ง (Live Streaming) ในการนำเสนอสินค้าของตัวเองและส่งตรงไปถึงหน้าจอโทรศัพท์มือถือของลูกค้า ไม่น่าแปลกใจเลยที่ 80% ของผู้ที่ดูสตรีมมิ่งก่อนตัดสินใจซื้อนั้นเป็นผู้หญิง ในเมื่อการช้อปปิ้งซื้อสินค้าเปลี่ยนไป ลูกค้าต่างต้องการใช้เวลาในการสั่งซื้อสินค้าที่สั้นที่สุดและต้องการให้มีการจัดส่งสินค้ามาในเวลาที่สั้นที่สุด ร้านค้าหรือผู้ขายก็เลยจำเป็นจะต้องปรับตัวตาม Shoppertainment นั้นเลยถูกออกแบบมาให้ผู้ขายนั้นได้มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าที่ผ่านมาดูช่องที่ร้านค้าได้ทำการถ่ายทอดสดอยู่

ให้การไลฟ์สดให้เป็นส่วนสำคัญของการทำการตลาดของคุณ

Shoppertainment ควรเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของคุณในปัจจุบันโดยทำให้แน่ใจว่ามันมีความต่อเนื่องในแง่ของภาพลักษณ์ สโลแกน และทิศทางที่นำเสนอสินค้า วิธีที่สามารถการสร้างกระแสให้กับการไลฟ์สตรีมสดคือการใช้คนที่มีผู้ติดตามมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงสั้นๆ หรือการขายแบบถ่ายทอดสด วิธีการดั้งเดิมอื่นๆ อาจรวมถึงการโฆษณาผ่านโฆษณา โฆษณา Youtube และเกมในแอพมือถือ เกมมือถือในแอปกำลังได้รับความสนใจจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากการทำงานร่วมกัน เช่น การแจกคูปองและรางวัลสามารถเพิ่มการเข้าถึงและการมองเห็นให้กับการไลฟ์สตรีมสดและแน่นอนว่ามันช่วยให้เพิ่มยอดขายได้ในที่สุด

ถ้าเสพจนติด รับรองว่าไม่มีหลุดแน่นอน

Digital traffic นั้นเหมือนกับการเดินเที่ยวในห้าง ยิ่งเราเดินผ่านหน้าร้านบ่อยนั่นก็หมายความว่าเราอาจจตัดสินใจซื้อสินค้าบ่อยมากขึ้นเช่นกัน และนี่ก็คือคอนเซปหลักของการทำ Shoppertainment นั่นเอง ร้านค้านำเสนอสินค้าตรงสู่หน้าจอโทรศัพท์มือถือบ่อยขึ้น ลูกค้าได้เห็นสินค้าและรับฟังการโฆษณาบ่อยขึ้น การที่ได้รับชมการถ่ายทอดสดทุกวันและได้มีปฏิสัมพันธ์บ่อยมากขึ้น มันก็เหมือนการเสพติด ถ้าวันไหนไม่ได้รับชมก็จะรู้สึกเหมือนชีวิตประจำวันขาดอะไรไป สุดท้ายก็ต้องจบที่สินค้าซักชิ้นเป็นแน่แท้